Pages

Friday, March 12, 2010

ผู้สอนและวิธีการสอน

เนื่องจากทุกวันนี้มีนักศึกษาที่เรียนจบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอาหาร หรือนักเรียนทางโภชนาการจบมาจำนวนมาก โรงเรียนที่มีมาตรฐานจะใช้ผู้สอนที่มีวุฒิในการสอน เพราะการทำขนมนั้นไม่ใช่ศิลปะแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นวิทยาศาสตร์ด้วย ผู้สอนต้องสามารถตอบเราได้ด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์ว่าทำไมขนมชิ้นนี้จึงยุบ อาจเพราะเราเปิดเตาอบบ่อย ทำให้ความดันในเตาหายไป เป็นต้น และส่วนที่สำคัญที่สุดของการเรียนทำขนมอบคือได้ทำเองจริง เข้าทำนองสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือทำ ดังนั้นครูที่ดีจึงต้องมีความอดทนในการตอบข้อซักถามของผู้เรียน และลงมือสอนอย่างจริงจัง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทุกคนที่เสียเงินเข้ามาเรียนต้องได้รับความรู้กลับไปเท่ากัน
นอกจากโรงเรียนแบบมาตรฐานแล้ว ยังมีโรงเรียนทั่วไปอีกมากมายที่คนเรียนไปเรียนเพราะชื่นชอบคนสอนเป็นพิเศษ ถ้าไปเรียนเสริมความรู้ก็สนุกดี หรือไปสมัครเรียนกับอาจารย์ประเภทโหด มัน ฮา พูดจาจีบปากจีบคอจิกนักเรียนให้ได้ฮา สอนจริงบ้างเหลวบ้าง แต่นักเรียนก็มาเรียนเพราะแก้เครียด ดีกว่าอยู่เปล่าๆ แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่เรียนปูพื้นเพื่อการเปิดร้าน และยังมีที่ตั้งตัวเป็นเกจิเปิดสอนตามบ้านหรือในร้านของตัวเองหลายแห่ง เดี๋ยวนี้ยังมีแบบเสียเงินไปนั่งรับประทานอาหารในโรงแรมหรู ช่างเขาจะมาสาธิตให้ดูด้วยว่าขนมที่กำลังเสิร์ฟนั้นทำอย่างไร พอกลับบ้านก็ทำได้แล้ว สุดท้ายหากพอมีฝีมือเรื่องการปรุงอาหารหรือทำขนมอยู่บ้าง จะซื้อหนังสือมาหัดเองก็ยังได้ ไม่ผิดกติกาอย่างไร ก็มั่นใจตัวเองเสียอย่าง
เดี๋ยวนี้การไปเรียนทำขนมนั้นสะดวกมาก เพราะไม่ต้องหอบสมบัติเครื่องมือเครื่องไม้ ส่วนผสมหรืออะไรไปให้รุงรัง ตามโรงเรียนเขามีให้ครบ โดยมีข้อแม้ว่า ใช้ได้เฉพาะที่เรียน อย่าหยิบของเขาติดมือกลับบ้านไปด้วยเท่านั้นเอง เพราะในค่าเรียนเขาจะคิดค่าส่วนผสมลงไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมาหาซื้อส่วนผสมมาแบ่งกันกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันอย่างสมัยรุ่นคุณแม่ เรียนเสร็จก็หิ้วขนมที่ตัวเองทำกลับไปแบ่งให้คนที่บ้านได้ชิมกัน บางหลักสูตรที่เป็นหลักสูตรสำหรับเปิดร้าน เขาสอนให้ผลิตขนมแบบจำนวนมาก ไม่ใช่เล็กๆ น้อยๆ แบบทำทานเอง ตกเย็นมาทุกคนจึงได้ขนมกันแบบชนิดตั้งขายหน้าบ้านได้เลย

พิมพ์ๆ มาถึงตอนนี้ เจ้าของบล็อกก็เริ่มเมื่อยนิ้วมือล่ะ เนื้อหาตอนนี้ก็เยอะจังเลย เด๋วพรุ่งนี้จะมาต่อให้น่ะจ้ะ

No comments:

Post a Comment